Review:: SK II ที่เคยใช้มาทั้งหมดนะจ๊ะ

สวัสดีจ้า วันนี้เราขนเอา SK2 ที่เราเคยใช้ มารีวิวให้เพื่อนๆ ชมกันนะจ๊า

** Review ของเราทำขึ้น โดยตัดสินจากความพึงพอใจหลังได้ทดลองใช้จริง ตัดสินจากความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ผลที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปตามบุคคล ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชมจ้า **

SK2 เป็นแบรนด์ที่ชูส่วนผสมหลักคือ Pitera คือส่วนผสมที่ได้จากการหมักบ่มยีสต์ ช่วยปรับสภาพผิว ให้ผิวมีการ turn over ตามวงจร 28 วันตามปกติ ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์

ตัวชูโรงหลักของเค้าก็คือ น้ำป้าเจี๊ยบนี้แล SK2 Treatment Essence

ตัวนี้จะเป็นตัวหลักที่คนใช้ SK2 จะเลือกใช้ส่วนมาก มีส่วนผสมของ Pitera เยอะมาก 90% เลื่องลือมากเรื่องกลิ่น ที่เหม็นตุๆ ออกแนวเหม็นอับๆ แต่พอใช้ไปนานๆ ก็จะเริ่มชิน เริ่มไม่ได้กลิ่นไปเอง

ส่วนตัวเราใช้รู้สึกชอบมาก รู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้นจริง ขาวขึ้น ไม่ได้ขาวแบบกระดาษ ขาวแบบเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดี เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว

ข้อเสีย ก็คือ มันแพง แต่ถ้าซื้อร้านดีดี ที่ให้ส่วนลดมากๆ (ส่วนมากจะลดประมาณ 30-35%) ก็จะคุ้มค่า ไม่แพง ถ้าซื้อราคาเต็มก็จะรู้สึกว่าแพงมากกกกกก

ตัวต่อไป ลองซื้อขนาดทดลองมาใช้ Cellumination Mask In Lotion ก็จะเหมือน Treatment essence วิธีใช้เหมือนกัน เราใช้วิธีหยดลงฝ่ามือแล้วตบๆ ให้ซึมเข้าผิว ตัวนี้มี Pitera เยอะเหมือนกัน มีส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย สีจะออกขาวขุ่นๆ ไม่เหมือน treatment essence ที่จะออกใสๆ

เค้าบอกว่า ขวดนี้ ให้ผลเหมือนการมาส์กหน้า 15 นาที ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ประมาณนั้น ซึ่งสำหรับเรา มันค่อนข้างเว่อร์มากกก ไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น แต่ก็รู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้นนะ แต่ไมไ่ด้ขนาดเหมือนมาส์กหน้า 15 นาทีแบบที่เค้าเคลม เราคงใช้ treatment essence ตัวปกติต่อไปดีกว่า

ตัวต่อไป เราซื้อเพราะเห็นโฆษณาทีวี ที่เค้าว่าหน้าใสโดยไม่ต้องแต่งหน้า เท่านั้นแหละ สั่งเลย ไม่รอช้า แต่นแต๊นนน ขอบอกว่า ตกใจกะราคา ทำไมแพงอย่างนี้ ​(50ml 7พันกว่าบาท) แต่ซื้อร้านเพื่อนมา ได้ลดเยอะหน่อย ก็ถึงตัดใจซื้อได้ ไม่งั้นคงช๊อคตายกะราคาก่อน

ตัวนี้มีหัวดูดมาหยดๆในมือ ชอบมาก กะปริมาณง่ายกว่า เนื้อเซรั่มจะเป็นขาวขุ่น เหลวๆ พอทาเข้าไปก็ซึมเข้าผิวทันที

ความรู้สึกที่ได้ใช้ ชอบมากกกกก ลากยาว ว่ามากกก ขวดนี้เป็นขวดที่ 2 แล้ว รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้นมาก แบบ ไมไ่ด้ขาวเป็นกระดาษ แต่ดูเปล่งปลั่งจริงๆ ส่วนเรื่องกระดูไม่ค่อยช่วยนะ เน้นว่าผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใสมากกว่า

**อัพเดทว่าถ้าใครสนใจตัวนี้ ตอนนี้ทาง SK-II เขาได้ปรับสูตรเป็นตัวที่ชื่อว่า Genoptics Aura Essence ซึ่งสูตรใหม่นี้ก็ปลื้มมากเช่นกัน ตามไปอ่านรีวิวได้ที่นี่เลยhttps://beauyogarabbit.com/2018/06/26/sk-ii-whitening-review/

ตัวนี้ลืมถ่ายรูปรวม

SK2 Dermdefinition UV Lotion ตัวนี้เพื่อนเราให้มาเป็นของขวัญ เลยได้ลองใช้ เป็นกันแดดที่มี Pitera ผสมมาด้วย แล้วก็ มีวิตามินอื่นๆ เนื้อเป็นแบบครีมสีขาวๆ แบบนี้

ผลการใช้ ขอบอกว่า ไม่ชอบ เพราะเราไม่ชอบเนื้อครีมกันแดดแบบครีมเหนียวๆ มั้ง ทาแล้วจะหนักๆ หน้า หน้ามัน รู้สึกหนาๆ เอาเป็นว่า สำหรับเรา ไม่โอเค แต่คนผิวแห้งๆ อาจจะชอบก็ได้นะ

แต่ก็ลองใช้จนหมด ถือว่า ประสิทธิภาพกันแดดดีทีเดียว เพราะผิวเราขาวขึ้นเล็กน้อย ติดแค่เรื่องฟีลลิ่งที่มันเหนียวๆ หนืดๆ หน้านิดนึง

ลืมถ่ายรูปตัว Clear Lotion มา ตัวนั้นซื้อตัวทดลองมาใช้ มันก็รู้สึกว่า สะอาดดี แต่ก็ไม่ได้ให้ผลอะไรมากสำหรับเรา ดังนั้น คิดว่า ไม่จำเป็นค่ะ

ลองซื้อมาใช้เพราะ อยากใช้ให้มันสุดๆ ไปเลยทั้งไลน์ ค้นพบว่า เนื้อเป็นเนื้อเจลครีม แบบที่เราชอบมากๆ (ปกติจะใช้ Clinique Moisture Surge) แต่ตัวนี้จะข้นๆ กว่า ทาแล้วจะเคลือบหน้ามากกว่า เหนอะๆนิดๆ แต่ซักพักก็จะซึมเข้าไป ให้ผลเป็นที่พอใจ เราชอบเนื้อสัมผัสแบบนี้ แล้วก็ให้ความชุ่มชื้นดีมาก แต่ว่าราคามันแพงมาก หมดแล้วก็คงไม่ซื้อใช้แล้ว ใช้ Clinique Moisture Surge เหมือนเดิมดีกว่า ราคาต่างกันเยอะเลยนะ

ตัวต่อไป ที่เราลองเอามาใช้ดู เพราะเห็นว่าเป็นหน้าร้อนแล้ว ก็เลยมองหา moisture ที่เบาบาง โลชั่น จะดีกว่า ก็เลยเอาตัวนี้มาลอง Facial treatment Milk

ปรากฏว่า เนื้อเป็นน้ำนมเหลวๆจริง แต่ว่า มันแฮะ ถ้าอากาศร้อนมากๆ เหนอะๆ หรือคนหน้ามันก็ไม่ค่อยเหมาะ กลับเป็นครีมน้ำนมที่เหมาะกับคนผิวแห้งมากกว่า เราก็เลยใช้วันที่ตากแอร์อยู่บ้าน ก็หน้ามันนิดหน่อย แต่ว่าบำรุงผิวได้ดี ช่วงที่ใช้ผิวหน้าจะไม่แห้ง ดูไม่ dull ค่ะ แต่ว่าราคาแพงมากเยย เราคงไม่ซื้อตัวนี้มาใช้แล้วหล่ะ ซื้อมาเพราะอยากลอง

เนื้อโลชั่นออกมาเป็นแบบค่อนข้างมัน พอทาไปมันก็ซึมเข้าผิว แต่ว่ายังเหลือความมันเคลือบๆ บนผิวอยู่นะคะ ตัวนี้เหมาะกับคนผิวแห้งมากกว่าค่ะ คนผิวมัน ผ่านไปเลยค่ะ

มีตัวใหม่เพิ่มอีกสามตัว นั่นคือไลน์ Essential Power สำหรับในไทย แต่ต่างประเทศคือ Stempower ที่ชื่อต้องเปลี่ยนเพราะด้านกฏหมายอะไรซักอย่าง แต่ก็ตัวเดียวกันค่ะ

ในชุด essential power จะเน้นไปที่ผิวกระชับยืดหยุ่น ฟู รูขุมขนเรียบเนียน ในไลน์นี้นอกจาก Pitera แล้วก็จะมี Stem Acanax ที่ช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรง ดูเฟิร์มๆ

ตัวแรกขอรีวิว Essence ก่อนนะคะ รุ่นนี้ขอบอกว่า แพงมาก อะไรจะแพงขนาดนี้ แต่ว่าอยากลอง ประกอบกับชุดปีใหม่ พอลดแล้วอะไรแล้วราคาคุ้มมาก ก็เลยจัดมาลองหนึ่งขวด

รุ่นนี้หัวเป็นหัวหยดๆ เนื้อเซรั่มจะเป็นน้ำใสๆ ซึมเข้าผิวเร็วมาก หลังจากใช้ตัวนี้ขอบอกว่า ประทับใจมาก คือ รูขุมขนดูเล็กลงและผิวดูแน่นเด้งขึ้นจริง แต่ไม่ช่วยเรื่องขาวใสจุดด่างดำนะ พอหน้าร้อนเราก็เลยคิดว่า คงต้องใช้พวกที่มีไวท์เทนนิ่งด้วยดีกว่า แต่ถ้าใครกังวลเรื่องผิวไม่เด้ง ไม่แน่น ตัวนี้จะแก้ปัญหาได้ค่ะ

ตัวนี้มีน้ำหอมอ่อนๆ นิดนึงด้วยนะคะ แต่ไม่เยอะ ไม่น่าจะระคายเคืองนะ

มาที่ตัวครีม กระปุกใหญ่สะใจ ใช้ได้นานมาก เนื้อไม่ได้เป็นครีมข้น เราคิดว่าออกกึ่งเจลนิดๆ ไม่ข้น หนักหน้ามาก ให้ความชุ่มชื้นดี ทาตอนกลางคืน ตื่นมาหน้าชุ่มชื้น แบบไม่มัน ไม่แห้ง แล้วก็รูขุมขนดูดีขึ้น เป็นไนท์ครีมที่ดีมากๆเลยค่ะ แต่ราคาแพงมาก ถ้ามีโปรดีดี ก็โอเคนะ ถ้าไม่มีโปรก็ซื้อครีมตัวอื่นจะคุ้มค่ากว่า

เค้ามีวิธีทาด้วยนะ ตามนี้ค่ะ

ตัวที่เราชอบที่สุด คือ Eye cream ค่ะ คือ ใต้ตาเราแห้ง ตัวนี้ เลิฟเลย มันเป็นเหมือนเนื้อบาล์ม มันๆ ทาเฉพาะตอนก่อนนอนนะคะ เหมือนเคลือบป้องกันความชุ่มชื้นได้ดีมากๆ บริเวณผิวที่แห้งกร้านตรงใต้ตานี่ดีขึ้นมากๆๆ แล้วก็ใช้ได้นานเพราะเราใช้นิดเดียว ตัวนี้ รักเลย ใครที่ผิวใต้ตาแห้ง แนะนำค่ะ Recommended!!!

จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวของเรา ย้ำอีกทีว่า สภาพผิวคนเราไม่เหมือนกัน ผลที่ได้อาจจะไม่เหมือนกัน และรีวิวของเราก็ใช้ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ค่ะ

 

Update จ้า 5 ปีผ่านไปจากบล๊อกแรก มีรีวิว SK-II ปี 2018 ที่ยังใช้อยู่ และตัวใหม่ที่ได้ใช้

เข้าไปดูได้ที่บล๊อกนี้เลย

https://beauyogarabbit.com/2018/06/10/sk2review/

แถมหลังจากใช้มาตั้งแต่ปี 2011 เราก็ได้ไปตรวจผิวกับ SK-II อีกครั้งในปี 2018 ด้วยจ้า

https://beauyogarabbit.com/2018/06/20/sk2magicring/