Boonchuji’s Conference April 2017 : Spirituality in practice

ทุกๆ วันอาทิตย์ต้นเดือน ที่ AYBKK ก็จะมี Conference ที่จะเป็นการพูดถึงแง่มุมต่างๆ ในการฝึก มีข้อคิดดีดีเยอะแยะเลย ถ้าใครสนใจ ก็ลองมาฟังสิ่งดีดีที่ครูบุญชูนำมาถ่ายทอดให้พวกเราได้ฟังกันค่ะ

**English see below

เดือนนี้ ครูได้พูดถึงข่าวที่ ชารัทจะงดสอนใน ซีซั่นหน้า นั่นก็คือปี 2018 นะคะ ถ้าใครสนใจจะไปฝึกที่เมืองมัยซอร์ในปีหน้ากับชารัทก็อาจจะต้องพักไปก่อนค่ะ

ครูบุญชูบอกว่า ชารัทพูดเสมอว่า บางคนก็อาจจะเริ่มต้นฝึกเพื่อที่จะอยากมีสุขภาพดี นั่นก็โอเค เพราะเมื่อเราฝึกไปเรื่อยๆ จนถึงจุดๆหนึ่งแล้ว เราก็จะเริ่มฝึกไปในระดับจิตวิญญาณเอง (Spirituality)

Spiritual นี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น การฝึกเป็นเหมือนเครื่องมือเท่านั้น คุณมาฝึก ทุกวันๆ ก็เพื่อค้นหา ทางจิตวิญญาณของคุณ นั่นก็คือ ความซื่อตรงกับตัวเอง  สิ่งที่สำคัญเป็นพื้นฐานในการฝึกจิตเลย  คือการฝึก ยามะ และ นิยามะ (ศีลธรรม และ จริยธรรม 5 ประการ)  อาสนะเป็นเพียงแค่เครื่องมือ ที่จะกระตุ้นเรา เช่นถ้าเราฝึกอาสนะ แล้วเราไปคิดเรื่องอื่น เมื่อเรารู้ตัว เราก็จะเข้าใจได้ว่า จิตเราไม่ได้อยู่กับกายและการฝึกของเราแล้ว ดังนั้นเราควรจะดึงจิตกลับมา สงบจิตสงบใจ และพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่

ดังนั้นเมื่อเราเข้าสู่การเป็น spiritual แล้ว เราก็จะมีความสุขมากขึ้น พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่มากขึ้น

Sharath said if someone start the practice just want to be fit or just to be healthy, that’s fine, but when someone practice to a certain level, they will start to seek for a spiritual. To be spiritual, has a lot of benefit, cuz you’ll know yourself. The practice is like a tool, you come and you try to seek for a spiritual path, which is to be  truth to yourself and yama or niyama is a basic form of mind training from practice.

Asana is kinda trick you becuz when you do asana and you think so much, you think about something else, and that’s already, when you realize, ok my mind is out of the way then you should be calm, and take yama and niyama and be non-harmful, just be happy to what it is. So if you become more spiritual, you become happier.

เกี่ยวกับ non attachment หรือการปล่อยวาง

ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเปลี่ยนแปลง ทุกๆคนก็แก่ขึ้นทุกวัน โต๊ะตัวนี้ วันนึงก็จะเก่า สนิมขึ้น

ดังนั้นเราควรจะฝึกแล้วเรียนรู้ที่จะพอใจ มีความสุข กับทุกสิ่ง เรียนรู้ที่จะยอมรับทุกอย่าง แล้วเราจะมีความสุข

ทุกๆสิ่งมีขึ้นและลง ทุกๆอย่างในโลกนี้ มีสองด้าน

เมื่อเรามีความสุขมากกกกกกับสิ่งใด เมื่อตอนที่ลง เราก็จะทุกข์มากเช่นกัน

ดังนั้น เราควรที่จะรับรู้ เมื่อเราทำอะไรสำเร็จ เพียงแค่ รับรู้ และปล่อยวาง

เมื่อเราทำไม่ได้ ก็เรียนรู้ที่จะยอมรับ ปล่อยวาง และมีความสุขไปกับชีวิต

กูรูจี พูดเสมอว่า

Everywhere you go, you looking, seeing god

คาดว่าท่านน่าจะหมายถึงว่า ทุกๆ ที่ ทุกๆ สิ่ง ไม่ว่าจะสิ่งใดก็ตาม รับรู้  เข้าใจจิตวิญญาณ  สงบ และยอมรับกับทุกๆ สิ่ง

 

ใครสนใจอย่าลืมมา join กันได้นะคะ ทุกวันอาทิตย์ต้นเดือนค่า

 

About attachment, things are change, everything in this world change, right? You become older, table become old and rusty. Things changed, anyone who practice and learn how to be happy with whatever, try to accept everything, so that person will become happy. There’s an up and down. Everything in the world got 2 sides. When you up or superhappy, when you down, you’ll become super sad too.

so try to know yourself when you can do something, just ok, and when you cannot do something, accept it and try to enjoy life.

Guruji always said

“Everywhere you go, you looking, seeing god”

I think he means whatever you feel, try to be spiritual, calm and accept it.